WebFlux คืออะไร? ต่างจาก Spring MVC อย่างไร

Sharing is caring!

ในยุคของแอปพลิเคชันที่ต้องรองรับผู้ใช้จำนวนมากพร้อมกัน ระบบต้องมีความสามารถในการประมวลผลแบบ asynchronous และ non-blocking ซึ่ง Spring WebFlux ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับสิ่งเหล่านี้ แตกต่างจาก Spring MVC ที่ทำงานแบบ synchronous และ blocking

ภาพหน้าปกบทความ

Spring WebFlux คืออะไร?

WebFlux เป็น reactive web framework ที่มาพร้อมกับ Spring 5 ซึ่งรองรับ non-blocking I/O และ event-driven programming โดยใช้ Project Reactor และ reactive stream เป็นพื้นฐาน เหมาะกับระบบที่ต้องการ scalability สูง เช่น ระบบ real-time, IoT, หรือ streaming

Spring MVC คืออะไร?

Spring MVC เป็น framework แบบ imperative ที่ทำงานบน Servlet API ซึ่งเป็น blocking I/O model เหมาะกับแอปทั่วไปที่มี request/response แบบธรรมดา เช่นระบบ CMS, Back-office หรือ API CRUD

ความแตกต่างหลัก

หัวข้อSpring WebFluxSpring MVC
ModelReactiveImperative
APIReactive Streams (Mono, Flux)Servlet API
การจัดการ threadNon-blocking (event-loop)Blocking (one-thread/request)
เหมาะกับReal-time, high-load systemCRUD app, dashboard
Server ที่ใช้ได้Netty, Undertow, Servlet 3.1+Tomcat, Jetty
Debuggingซับซ้อนกว่าง่ายกว่า

ตัวอย่างโค้ด Spring WebFlux

@RestController
public class GreetingHandler {
    @GetMapping("/hello")
    public Mono<String> sayHello() {
        return Mono.just("Hello from WebFlux!");
    }
}
  

ตัวอย่างโค้ด Spring MVC

@RestController
public class HelloController {
    @GetMapping("/hello")
    public String hello() {
        return "Hello from MVC!";
    }
}
  

เมื่อไรควรเลือกใช้ WebFlux

  • เมื่อระบบต้องรองรับ request พร้อมกันจำนวนมาก
  • เมื่อมีการเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ผ่าน non-blocking I/O เช่น DB แบบ reactive
  • เมื่อระบบมี I/O-bound สูง เช่น chat, stream, IoT

ข้อดีของ WebFlux

  • รองรับ concurrent ได้ดี
  • ใช้ resource ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เป็น reactive ทำให้ต่อยอดกับ system อื่นๆ ที่เป็น reactive ได้ง่าย

ข้อเสียของ WebFlux

  • Debug และ Trace ยากขึ้น
  • Learning curve สูง
  • ไม่เหมาะกับ application ที่ logic หนัก ๆ แบบ synchronous

สรุป

WebFlux เหมาะสำหรับระบบสมัยใหม่ที่ต้องการ scalability และ high concurrency ขณะที่ Spring MVC ยังเหมาะกับแอปทั่วไปที่เน้นความง่ายในการพัฒนาและดูแล การเลือกใช้งานควรพิจารณาตามบริบทของระบบเป็นหลัก


แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *