บทนำ
JavaScript เป็นภาษาหลักของเว็บมานาน แต่เมื่อเจอกับงานที่ต้องใช้การประมวลผลหนัก เช่น งานกราฟิก การเข้ารหัส หรือ AI บนเบราว์เซอร์ บางครั้ง JavaScript อาจไม่ตอบโจทย์เรื่องประสิทธิภาพ นี่จึงเป็นที่มาของ WebAssembly (Wasm) เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยเสริม JavaScript ให้ทรงพลังยิ่งขึ้น
WebAssembly คืออะไร?
WebAssembly หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Wasm คือรูปแบบ bytecode ที่สามารถรันได้ในเบราว์เซอร์เหมือน JavaScript แต่ถูกออกแบบให้ เร็วกว่า และ ใกล้เคียง native performance
โค้ดสามารถเขียนด้วยภาษาอื่น (เช่น C/C++, Rust, Go) แล้ว compile เป็น WebAssembly เพื่อให้รันบนเว็บได้
WebAssembly ไม่ได้มาแทน JavaScript
หลายคนเข้าใจผิดว่า WebAssembly จะมาแทน JavaScript ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะ Wasm ไม่มีความสามารถ DOM access โดยตรง จึงเหมาะสำหรับงานเฉพาะจุด และใช้ควบคู่กับ JavaScript ต่างหาก
ข้อดีของการใช้ WebAssembly ร่วมกับ JavaScript
1. เพิ่มประสิทธิภาพ
Wasm รันได้เร็วกว่า JavaScript หลายเท่า เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็ว เช่น Game Engine, Image Processing, Audio/Video Codec, หรือ Machine Learning
2. นำโค้ดจากภาษาอื่นมาใช้ใหม่ได้
สามารถนำ library เดิมจาก C/C++ หรือ Rust มาใช้งานบนเว็บได้ทันที เช่น libjpeg, zlib, TensorFlow Lite
3. ทำให้เว็บทำงานหนักได้บนฝั่ง client
ลดการพึ่งพา backend สำหรับงานคำนวณ เช่น การ render โมเดล 3D บนเว็บแบบ real-time
4. รักษาความปลอดภัย
Wasm ทำงานใน sandbox environment ซึ่งปลอดภัยกว่าการรัน native binary โดยตรง
การทำงานร่วมกับ JavaScript
โค้ด JavaScript สามารถเรียกใช้ฟังก์ชันใน WebAssembly ได้ผ่าน Web API เช่น:
// JavaScript เรียก WebAssembly Module
const response = await fetch('app.wasm');
const buffer = await response.arrayBuffer();
const wasm = await WebAssembly.instantiate(buffer);
wasm.instance.exports.myFunction();
ตัวอย่างการใช้งาน
1. แปลงภาพ PNG เป็น JPG บนเบราว์เซอร์
- ใช้ libjpeg (C) compile เป็น Wasm
- เขียน JS เป็น UI interface
2. รันโมเดล Machine Learning (เช่น TensorFlow.js + Wasm backend)
- เร็วกว่า WebGL หรือ CPU บนบางเบราว์เซอร์
- ใช้งานบนอุปกรณ์ low-power ได้ดี
3. การสร้างเกม HTML5 ที่ต้องการการคำนวณฟิสิกส์แบบ real-time
- Game Logic เขียนด้วย C++
- รันผ่าน Wasm บนเว็บ
ข้อจำกัดของ WebAssembly
- ไม่สามารถเข้าถึง DOM ได้โดยตรง
- การสื่อสารกับ JS ต้องผ่าน memory mapping หรือ bridge
- ต้องมีขั้นตอน compile ต่างหาก
สรุป
WebAssembly คือเทคโนโลยีที่ไม่ได้มาแทน JavaScript แต่ช่วยให้เว็บแอปสามารถรันงานที่ซับซ้อนหรือหนักได้ดีขึ้น และเมื่อใช้งานร่วมกับ JavaScript อย่างเหมาะสม จะสามารถสร้างประสบการณ์ที่เร็วและทรงพลังมากกว่าเดิมหลายเท่า
บทความนี้ใช้เวลาอ่าน 10 – 15 นาที เขียนโดยทีมงาน poolsawat.com